เรากำลังทำชีวิตให้เรียบง่าย พึ่งพาตนเองได้ ใช้และสร้างทรัพยากรที่มีอยู่รอบตัวให้พอดีกับตัวเอง เราขอเชิญคุณมาเรียนรู้และแลกเปลี่ยนกัน

วันอังคารที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2554

ฟื้นฟูศรัทธาต่อการรักษาโรคด้วยสมุนไพรพื้นบ้านของตำบลท่ามะไฟหวาน

ฟื้นฟูศรัทธาต่อการรักษาโรคด้วยสมุนไพรพื้นบ้านของตำบลท่ามะไฟหวาน

“ชิม บ่ ? แก้ท้องอืด กินคนละฝา กินแล้วจะหาย” แม่ชาลี วงศ์เสนา ชาวบ้านหมู่ที่ ๑๑ ต.ท่ามะไฟหวาน อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ กำลังสาธยายสรรพคุณของยาธาตุเปลือกอบเชย พร้อมกับชักชวนให้ทดลองชิมยา ให้กับผู้ที่สนใจ ในขณะที่มาเป็นวิทยากร ฐานการเรียนรู้ภูมิปัญญาด้านสมุนไพร ให้กับกิจกรรมบรรพชาสามเณรและพรามจาริณีภาคฤดูร้อน ของวัดป่าสุคะโต ต.ท่ามะไฟหวาน ระหว่างวันที่ ๓๑ มีนาคม – ๔ เมษายน ๒๕๕๔

แต่เดิมนั้นแม่ชาลีรู้จักแต่ย่านาง เอามาทำแกง ใบเตย เอามาทำขนม เสลดพังพอนเอามาใส่แผลงูกัด แต่หลังจากที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมกับ “โครงการฟื้นฟูศรัทธาต่อการรักษาโรคหวัดและโรคกระเพาะด้วยสมุนไพรพื้นบ้าน ตำบลท่ามะไฟหวาน อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ” ซึ่งเป็นโครงการวิจัยที่ได้รับทุนจาก สกว. (ฝ่ายวิจัยเพื่อท้องถิ่น) ปี ๒๕๕๑ จนถึงปัจจุบันคือชมรมสมุนไพรพื้นบ้านตำบลท่ามะไฟหวานแล้ว แม่ชาลีรู้จักสมุนไพรมากขึ้นกว่าเดิม เช่น รางจืด ใบเตย ย่านาง ออมแซบ หญ้าปักกิ่ง พญาหญ้า ว่านหางช้าง ขมิ้นชัน ตลอดจนรู้จักวิธีการใช้เป็นอย่างดี

“หน้าใสขึ้น หน้าไม่ย่น มีคนทักหลายคน เพราะเอาดินสอพอง ถ่านไฟ น้ำกลั่นย่านางพอก
....โรคหัวใจ โรคใจสั่น ลิ้นหัวใจรั่ว เป็นมา ๒๐ ปี ปวดเอว ปวดขา ตั้งแต่ปี ๒๕๕๑-๒๕๕๒ นอนโรงพยาบาลบ่อย แต่เดี๋ยวนี้มีแต่ไปตรวจเช็คร่างกายแล้วก็กลับมาบ้าน เวลาที่ใจสั่นก็แค่ทายาหม่องที่ชมรมฯ ให้มา เอามาทาที่จมูก และขมับ นอนพักสักหน่อยก็หาย”

จนถึงวันนี้ ชมรมสมุนไพรพื้นบ้านตำบลท่ามะไฟหวาน ที่เกิดมาจากโครงการฟื้นฟูศรัทธาต่อการรักษาโรคหวัดและโรคกระเพาะฯ ยังคงดำเนินงานต่อไป ด้วยการเชิญชวนชาวบ้านมาทำปลูกสมุนไพรและทำยาด้วยกัน แล้วแบ่งปันกันไปใช้ ยาที่แบ่งไว้อีกส่วน นำไปขายเพื่อเป็นรายได้หมุนเวียนกลับมาทำกิจกรรมกลุ่ม

“แม่ได้เอาน้ำมันว่านมหาประสานที่ได้ทำด้วยกัน ไปทาให้หัวริดสีดวงให้กับพ่อบ้าน หัวริดสีดวงที่มันออกมาเป็นก้อนเท่านิ้วโป้งมันยุบหายไปเลยนะ” แม่แพงพัน นาพัว ชาวบ้านหมู่ ๑ ต.ท่ามะไฟหวาน หนึ่งในสมาชิกชมรมพูดด้วยความตื่นเต้น

“ยาที่ได้ไป แม่เอาไปแจกชาวบ้าน ผู้เฒ่าปวดขาก็เอาไปนวดให้เขา” แม่คำพลอย หล่มเพชร ชาวบ้านหมู่ ๑ ต.ท่ามะไฟหวาน ซึ่งเป็นสมาชิกคนหนึ่งบอกเล่าเรื่องราวของตน

นอกจากนี้ชมรมฯ ยังสนับสนุนให้สมาชิกได้มีหัวใจแบ่งปันหรือจิตอาสา ช่วยดูแลสุขภาพให้กับคณะเดินธรรมยาตราลุ่มน้ำลำปะทาวมา ๓ ปีแล้ว และสอนสามเณรทำยาทุกปี ตลอดจนโครงการอบรมการดูแลสุขภาพแนวเศรษฐกิจพอเพียง ตามหลักการแพทย์วิถีธรรม ที่กำลังจะเกิดขึ้นเป็นปีที่ ๒ ให้กับผู้คนทั่วสารทิศ ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือของ อบต.ท่ามะไฟหวาน และวัดป่าสุคะโต

คุณค่าการทำงานเหล่านี้มาจากหัวใจที่เปี่ยมด้วยความเมตตาที่มีต่อเพื่อนมนุษย์ แม้ไม่ได้มีค่าตอบแทนเป็นเงินตรา แต่ก็เป็นต้นแบบให้กับเพื่อนมนุษย์ได้เห็น “ศักยภาพในการพึ่งพาตนเอง” และที่เหนือไปกว่านั้นคือ “ความสามารถ” ในการเป็นที่พึ่งให้กับคนในครอบครัวและคนรอบข้างที่กำลังเจ็บป่วยอยู่ ณ ขณะนี้




โครงการอบรมการดูแลสุขภาพแนวเศรษฐกิจพอเพียง ตามหลักการแพทย์วิถีธรรม ปี ๒๕๕๓


ประชุมแบ่งงาน



รอแช่มือแช่เท้า



ทำโยคะยามเช้า



ทีมครู ก สาธิตการขูดคัวซา







อาจารย์ปางธาราไพร ชำกรม
วิทยากร อาจารย์ปางธาราไพร ชำกรม เมื่อปี ๒๕๕๐ อาจารย์เคยทำงานวิจัยโครงการวิจัยกระบวนการฟื้นฟูและดูแลสุขภาพของกลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงตามแนวทางการแพทย์ทางเลือกแบบพึ่งตนเอง บ้านนาหนองทุ่ม อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ (สกว.ฝ่ายวิจัยท้องถิ่น) สิ่งที่ได้ค้นพบ คือการรักษาผู้ป่วยให้หายได้โดยไม่ใช้ยา แต่ใช้วิธีการปรับสมดุลร่างกาย ทำให้ผันตัวเองมาศึกษาค้นคว้าการแพทย์วิถีธรรมมากขึ้น และอุทิศตนทั้งชีวิตให้งานเผยแพร่ความรู้ในการดูแลสุขภาพให้กับผู้ป่วย




แม่ชีศรี
แม่ชีศรีแต่ก่อนเป็นมะเร็งลำไส้ ปัจจุบันหายแล้ว และยืนยันการรักษามะเร็งลำไส้ของตนโดยไม่ใช้เคมีบำบัด ไม่ผ่าตัด แต่ใช้วิธีของ “หมอเขียว” (การแพทย์วิถีธรรม) แม่ชีศรีมาช่วยเป็นคณะทำงานของโครงการอบรมฯ




แม่ชาลี วงศ์เสนา
แม่ชาลี วงศ์เสนา ชาวบ้านหมู่ ๑๑ ต.ท่ามะไฟหวาน อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ เป็นโรคหัวใจ โรคใจสั่น ลิ้นหัวใจรั่ว ปวดเอว ปวดขา มา ๒๐ ปี ตั้งแต่ปี ๒๕๕๑-๒๕๕๒ นอนโรงพยาบาลบ่อย แต่เดี๋ยวนี้ไม่ต้องไปนอนโรงพยาบาลแล้ว มีแต่ไปตรวจเช็คร่างกายแล้วก็กลับมาบ้านเลย




แม่ชีหญิง วัดป่าสุคะโต เคยเป็นหวัดเยอรมัน แต่ได้รับการดูแลจากแม่ชีศรี รักษาหายกันที่วัดโดยไม่ได้กินยาซักเม็ด



คุณแม่ของน้องต้นน้ำและธารใส โรจน์เรืองไร ทดลองรักษาโรคหวัด โรคคออักเสบ กระเพาะอาหารอักเสบของลูกอยู่ที่บ้าน ด้วยหลักการแพทย์วิถีธรรม การแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน ซึ่งค้นพบการรักษาโดยไม่ใช้ยาพาราเซตามอล ยาแก้อักเสบหรือยาลดน้ำมูก ที่ไม่ทำให้ลูกง่วง ซึม หรืององแง แต่เด็ก ๆ จะเล่น ซนได้เหมือนเดิม แม้ว่าจะใช้เวลารักษายาวนาน (๑-๒ สัปดาห์เนื่องจากการรับประทานของแสลงโรคบ้าง) พบว่าสุขภาพของเด็กๆ ดีขึ้น เป็นหวัดก็ไม่ค่อยมีไข้ เนื่องจากพอเห็นน้ำมูกลูก ก็คัวซา อาหารปรับสมดุล ทำยาสมุนไพรให้รับประทานทันที ทำให้อาการไข้ไม่รุนแรง และค่อยๆ หายเป็นปกติ นานๆ ทีจะได้พาลูกไปโรงพยาบาลฉีดวัคซีนหรือปรึกษาปัญหาสุขภาพที่คุณแม่ไม่รู้ ซึ่งเป็นการลดรายจ่ายภายในครัวเรือนอย่างมหาศาล
คุณตาของน้องต้นน้ำและธารใส ป่วยเป็นมะเร็งตับเมื่อปี ๒๕๕๒ คุณหมอแนะนำให้เปลี่ยนตับ เพราะเนื้อตับมีน้อยทำเคมีบำบัดไม่ได้ แต่สุดท้ายก็ไม่ต้องเปลี่ยนแถมค่ามะเร็งลดลงในเดือนมิถุนายน ๒๕๕๓ จนกระทั่งปัจจุบัน (เดือนมกราคม ๒๕๕๔) คุณหมอให้งดยาบางตัวที่เคยรับประทาน เพราะตับดีขึ้นมาก ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณแนวทางการดูแลสุขภาพด้วยตนเอง (การแพทย์วิถีธรรม) และยาสมุนไพรไทย (ยาฝนพื้นบ้าน)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น